06-14-2022, 12:40 PM
ทีมชาติไทย อาจการันตีผ่านเข้ารอบสุดท้าย เอเชียน คัพ 2023 ตั้งแต่ยังไม่ลงเตะกับ อุซเบกิสถาน หาก ฟิลิปปินส์ ซึ่งจะลงแข่งขันก่อน ไม่สามารถเอาชนะ ปาเลสไตน์ ได้
นัดสุดท้ายของศึกเอเชียน คัพ 2023 รอบคัดเลือก ทุกกลุ่มจะลงเตะวันที่ 14 มิ.ย.นี้ โดยจะคัดเอาทีมแชมป์ 6 กลุ่ม และอันดับ 2 ที่ดีที่สุดอีก 5 ทีม จาก 6 กลุ่ม รวมเป็น 11 ทีมผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายในปีหน้า
โดยสถานการณ์ของ ทีมชาติไทย ตอนนี้อยู่อันดับ 2 ของกลุ่มซี มี 6 คะแนนเท่ากับเจ้าภาพ อุซเบกิสถาน แต่ประตูได้เสียเป็นรอง ทำให้นัดสุดท้ายที่จะเจอกัน "ช้างศึก" ต้องชนะเท่านั้น เพื่อการันตีจบแชมป์กลุ่ม
หากเสมอหรือแพ้ต้องไปลุ้นแย่งเข้ารอบในฐานะทีมอันดับ 2 ที่ผลงานดีที่สุดกับอีก 5 กลุ่ม โดยทีมอันดับ 2 ของแต่ละกลุ่ม ในศึกเอเชียนคัพ 2023 รอบคัดเลือก หลังผ่าน 2 นัด มีดังนี้
ทีมอันดับ 2 ของกลุ่มศึกเอเชียนคัพ รอบคัดเลือก
1. กลุ่มซี ไทย 2 นัด 6 แต้ม ประตูได้เสีย +5
2. กลุ่มเอฟ คีร์กิซสถาน 2 นัด 6 แต้ม ประตูได้เสีย +3
3. กลุ่มดี อินเดีย 2 นัด 6 แต้ม ประตูได้เสีย +3
4. กลุ่มบี ฟิลิปปินส์ 2 นัด 4 แต้ม ประตูได้เสีย +1
5. กลุ่มอี มาเลเซีย 2 นัด 3 แต้ม ประตูได้เสีย +1
6. กลุ่มเอ อินโดนีเซีย 2 นัด 3 แต้ม ประตูได้เสีย 0
อย่างไรก็ตาม หากดูจากโปรแกรมการแข่งขันนัดสุดท้าย "ช้างศึก" อาจเข้ารอบสุดท้าย ตั้งแต่ยังไม่ลงเตะกับ อุซเบกิสถาน เนื่องจาก ฟิลิปปินส์ จะพบ ปาเลสไตน์ ตั้งแต่ 11.30 น. หากเสมอหรือแพ้ ฟิลิปปินส์ จะจบที่ 4 หรือ 5 แต้มเท่านั้น ส่งผลให้ทั้ง ทีมชาติไทย , อินเดีย และ คีร์กิซสถาน ซึ่งมีอยู่ 6 แต้มเท่ากัน การันตีเข้ารอบสุดท้ายทันที ในฐานะทีมอันดับ 2 ที่ผลงานดีที่สุดจำนวน 5 ทีมจาก 6 กลุ่ม แต่หาก ฟิลิปปินส์ ชนะ มีเพิ่มเป็น 7 แต้ม ไทย ก็ต้องลุ้นต่อ หากชนะหรือเสมอ อุซเบกิสถาน จะการันตีเข้ารอบสุดท้ายแน่นอน แต่ถ้าแพ้ก็ห้ามแพ้ขาด เพื่อไปลุ้นแย่งเข้ารอบในฐานะทีมอันดับ 2 ที่ผลงานดีที่สุดกับอีก 5 กลุ่มที่เหลือ
สำหรับ ทีมชาติไทย จะลงสนามพบกับ อุซเบกิสถาน ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ เวลา 22.30 น. ที่สนามมาร์กาซีย์ สเตเดียม ประเทศอุซเบกิสถาน