[sarochadouchez]

ทำความรู้จักตัวตนหลากหลายแง่มุมของ "เจเน็ต ทอดด์" อดีตวิศวกรการบินหญิงที่ผันตัวมาสู่นักสู้และนั่งครองบัลลังก์แชมป์โลก ONE สองประเภทกีฬา โดยถือครองทั้งเข็มขัด ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต และ มวยไทย รุ่นอะตอมเวต เฉพาะกาล (105-115 ป.)

"เจเน็ต ท็อดด์" นักสู้หญิงเลือดญี่ปุ่น-อเมริกัน มีอาชีพการงานมั่นคงในด้านวิศวกรรมการบิน แต่เลือกที่จะเดินสายนักสู้ควบคู่ไปด้วย เหตุใดเธอจึงยอมเดินบนเส้นทางนี้ทั้งที่ต้องแลกมาด้วยการเจ็บตัว เราจะพาไปรู้จักตัวตนของเธอให้ดียิ่งขึ้นผ่านเรื่องราวต่อไปนี้



แคลิฟอร์เนียเกิร์ล

"เจเน็ต" เกิดและเติบโตที่เฮอร์โมซา บีช รัฐแคลิฟอร์เนีย มีคุณพ่อเป็นชาวอเมริกัน ส่วนคุณแม่เป็นชาวญี่ปุ่น ในวัยเด็ก "เจเน็ต" ชอบกีฬาเป็นชีวิตจิตใจ แต่เธอไม่สนใจศิลปะการต่อสู้เลย เธอเลือกเรียนยิมนาสติกอย่างจริงจัง ก่อนจะเลิกเล่นไปเป็นเชียร์ลีดเดอร์แทน



จากคาร์ดิโอคิกบ็อกซิ่งสู่มวยไทย

ในช่วงวัยเรียนในมหาวิทยาลัย "เจเน็ต" ศึกษาในสาขาวิศวกรรมการบิน 5 ปี ที่มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคแคลิฟอร์เนีย ในซานหลุยส์ โอบิสโป ซึ่งในขณะเดียวกันเธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่รักสวยรักงาม เธอจึงได้รู้จักกับคาร์ดิโอคิกบ็อกซิ่ง ซึ่งช่วยให้หุ่นของเธอดีขึ้น ก่อนที่จะมารู้จักกับมวยไทยผ่านคำแนะนำของแฟนหนุ่มที่ทำให้ "เจเน็ต" ก็ติดใจเข้าอย่างจัง



ค้นพบตัวเอง

หลังจากได้เริ่มเรียนมวยไทย "เจเน็ต" ได้เป็นพี่เลี้ยงให้เพื่อนในตอนแข่งขันมวยไทยสมัครเล่น มันกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้เธอตัดสินใจลงแข่งในระดับสมัครเล่น แม้จะได้รับชัยชนะกลับมา แต่เธอก็เลือกที่จะหยุดพักการแข่งขันและหางานทำ

ในอีก 4 ปีต่อมา "เจเน็ต" มีโอกาสหันกลับมาเล่นกีฬาที่เธอรัก ครั้งนี้เธอเดินหน้าสุดตัว และค้นพบปัญหาในตอนนั้นว่า มวยไทยไม่ใช่กีฬาที่คนในอเมริการู้จักกันมากนัก จึงแทบไม่มีรายการให้ลงแข่งเลย



ดิ้นรนหาโอกาส

เพื่อความก้าวหน้าในเส้นทางการต่อสู้ "เจเน็ต" ออกนอกประเทศเพื่อหาโอกาสในการแข่งขัน ในปี 2560 เธอขึ้นชกถึง 14 ไฟต์และปิดเกมด้วยการน็อกเอาต์หลายครั้ง ทั้งยังคว้าเหรียญทองแดงจากการแข่งขันชิงแชมป์โลกของ IFMA เหรียญทองแดงจากการแข่งขันเวิลด์เกมส์ และเหรียญทองจากการชิงแชมป์ IFMA Pan American

จากนั้นก็ได้ตบเท้าเข้าร่วมสังกัด ONE และเปิดตัวครั้งแรกในฐานะคู่ชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต กับ "แสตมป์ แฟร์เท็กซ์" เมื่อก.พ. 62 แต่ "เจเน็ต" ก็พ่ายกลับลงจากสังเวียน พลาดโอกาสการขึ้นแท่นแชมป์โลกในครั้งนี้ไป



นั่งบัลลังก์แชมป์โลก

"เจเน็ต" เก็บชัยชนะ 3 ไฟต์ติดใน 1 ปี เธอก็ได้โอกาสชิงเข็มขัดแชมป์โลกกับคู่ปรับคนเก่าชาวไทยอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นกติกาคิกบ็อกซิ่ง ซึ่งปรากฎว่าเมื่อครบ 5 ยก เธอสามารถกระชากเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวตจาก "แสตมป์" มาครองได้สำเร็จ

และในเดือนก.ค.65 นักสู้ลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน ก็ได้รับสิทธิ์ชิงตำแหน่งแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต เฉพาะกาล เนื่องจาก "อัลลิเซีย" แชมป์โลกคนปัจจุบันไม่สามารถปฏบัติหน้าที่แชมป์โลกได้ในขณะนั้น ทาง ONE จึงเปิดศึกชิงแชมป์โลกเฉพาะกาลขึ้น เพื่อให้การแข่งขันในรุ่นนี้มีการเคลื่อนไหวต่อไป โดยในไฟต์นั้นเธอสามารถเอาชนะ "ลารา เฟอร์นานเดซ" ด้วยคะแนนเอกฉันท์ ขึ้นแท่นแชมป์โลกสองประเภทกีฬาจนถึงปัจจุบัน

"เจเน็ต" จะกลับคืนสังเวียน ONE อีกครั้งในฐานะแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต เฉพาะกาล โดยจะลงศึกรวมเข็มขัดกับราชินีมวยไทย รุ่นอะตอมเวต "อัลลิเซีย เฮลเลน รอดริเกส" ที่พร้อมกลับมาทำหน้าที่แชมป์โลก เพื่อตัดสินว่าใครจะได้ครองบัลลังก์นี้เพียงผู้เดียว ในศึก ONE FIGHT NIGHT 8 ถ่ายทอดสดจากสิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ช่วงไพรม์ไทม์อเมริกาซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 07:00 น. ของวันเสาร์ที่ 25 มี.ค. 66

แฟนๆสามารถจองบัตรเข้าชมที่สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ที่ Ticketmaster พร้อมติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของ ONE ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand, เว็บไซต์ www.onefc.com และอินสตาแกรม ONEChampTh