02-25-2023, 09:20 AM
เกมลาลีกา สเปน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แอตเลติโก้ มาดริด เปิดบ้านเฉือนชนะ แอธเลติก บิลเบา 1-0 ยังคงรักษาอันดับที่ 4 ไว้ได้ ก่อนที่นัดต่อไปจะเจอศึกหนักกับ เรอัล มาดริด ในดาร์บี้แมตช์
นับตั้งแต่ลาลีกา กลับมารีสตาร์ทหลังฟุตบอลโลก 8 นัด แอตฯ มาดริด ชนะ 5 เสมอ 2 และแพ้ 1 เสียเพียง 3 ประตู และเก็บคลีนชีตได้ถึง 5 นัด มีเพียง บาร์เซโลน่า เท่านั้นที่ทำผลงานได้ดีกว่า
ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือของ แอตฯ มาดริด กล่าวหลังจบเกมกับ บิลเบา ว่า "เรามีฤดูกาลนี้ที่แตกต่างจากฤดูกาลก่อน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่การจมอยู่กับปัญหา แต่ต้องแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้"
"เราตกรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก เร็วเกินไป จากนั้นก็ตกรอบโคปา เดล เรย์ แต่หลังจากฟุตบอลโลก ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ทีมของเรากำลังทำงานอย่างหนัก และนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิม"
14 นัดแรกของฤดูกาลนี้ ก่อนพักเบรกหลีกทางให้เวิลด์ คัพ แอตฯ มาดริด เก็บคะแนนได้เฉลี่ย 1.7 แต้มต่อเกม แต่อีก 8 นัดหลังจากนั้น ทีมของ ซิเมโอเน่ เก็บคะแนนได้มากขึ้น เฉลี่ย 2.1 แต้มต่อเกม
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ แอตฯ มาดริด มีผลงานดีขึ้นในช่วงหลัง คือการที่ "เอล โชโล่" เปลี่ยนไปใช้แท็กติก "แบ็กโฟร์" ทำให้เกมรับแข็งแกร่งขึ้น โดยเฉพาะ ไรนิลโด้ และ มาริโอ เอร์โมโซ่ ที่โชว์ฟอร์มดีเป็นพิเศษ
ไรนิลโด้ ดาวเตะทีมชาติโมซัมบิก วัย 29 ปี ถูกยกให้เป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยความขยันในการเข้าสกัดบอล เคลียร์บอล อีกทั้งครองบอลได้ดี และผ่านบอลได้แม่นยำอีกด้วย
ขณะที่ เอร์โมโซ่ เซ็นเตอร์แบ็กชาวสเปน วัย 27 ปี หนึ่งในนักเตะชุดคว้าแชมป์ลาลีกา เมื่อ 2 ซีซั่นก่อน ได้รับโอกาสลงสนาม 7 จาก 8 เกมหลังสุด ทั้งๆที่ช่วงก่อนฟุตบอลโลก เขาได้ลงเล่นเพียง 3 นัด จาก 14 นัดแรก
ในส่วนของเกมรุก ก็เริ่มที่จะลงตัวมากขึ้น อองตวน กรีซมันน์, อัลบาโร่ โมราต้า และ อังเกล กอร์เรอา ยิงไปแล้วคนละ 2 ประตู ขณะที่ เมมฟิส เดปาย ที่เพิ่งย้ายเข้ามาในเดือนมกราคม ก็เบิกสกอร์แรกได้แล้ว
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของ แอตเลติโก้ มาดริด คือการทำศึก "เอล ดาร์บี้" บุกไปเยือน เรอัล มาดริด ทีมที่เก็บแต้มได้น้อยกว่าพวกเขาเพียง 1 แต้ม นับตั้งแต่ลาลีกากลับมาแข่งขันหลังพักเบรกฟุตบอลโลก
แนะนำเว็บน่าสนใจ : dragongaming666.com | dreamgaming168.com | fachai66.net | fifa777.info | fifa999.net เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง