สมาคมคาสิโนออนไลน์ PG SLOT แห่งประเทศไทย พูดคุยสล็อต PG เล่นง่ายที่สุด
8นาทีเสีย3ลูก!ดอร์ทมุนด์สุดช็อคโดนเบรเมนยิงนาทีบาปเจ็งคาบ้านสุดช้ำ - Printable Version

+- สมาคมคาสิโนออนไลน์ PG SLOT แห่งประเทศไทย พูดคุยสล็อต PG เล่นง่ายที่สุด (https://pgslotgroup.net)
+-- Forum: สมาคมสล็อตออนไลน์ PG แห่งประเทศไทย (https://pgslotgroup.net/forumdisplay.php?fid=1)
+--- Forum: วิเคราะห์บอล ข่าวกีฬา ทีเด็ดบ้านผลบอล (https://pgslotgroup.net/forumdisplay.php?fid=3)
+--- Thread: 8นาทีเสีย3ลูก!ดอร์ทมุนด์สุดช็อคโดนเบรเมนยิงนาทีบาปเจ็งคาบ้านสุดช้ำ (/showthread.php?tid=374)



8นาทีเสีย3ลูก!ดอร์ทมุนด์สุดช็อคโดนเบรเมนยิงนาทีบาปเจ็งคาบ้านสุดช้ำ - bspolarbear - 08-21-2022

[Image: 999.jpg]

โดน2ลูกนาทีบาป! “เสือเหลือง” ดอร์ทมุนด์ สุดเจื่อน นำ เบรเมน 2-0 ก่อนโดนเอาคืนท้ายเกม แถมเสีย 2 ลูกช่วงทดเจ็บ น.90+3 กับ น.90+5 โดนทีม นกนางนวล บุกเชือดเหลือเชื่อ ในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน เมื่อวันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2565

บุนเดสลีกา เยอรมัน
วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2565
ดอร์ทมุนด์ 2-3 เบรเมน

สนาม : ซิกนัล-อิดูน่า-พาร์ค

ฟุตบอลบุนเดสลีกา ประจำวันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2565 เป็นเกมระหว่าง “เสือเหลือง” ดอร์ทมุนด์ ทีมอันดับสองของตาราง เปิดบ้านรับ เบรเมน ทีมอันดับ 10

ดอร์ทมุนด์ ภายใต้การคุมทีมของ แอร์ดิน แทร์ซิช ทำผลงานดีต่อเนื่องกำชัย 2 นัดรวดเป็นทางการ โดยยึดชุดเดิมต่อไป แนวรุกตำแหน่งหน้าเป้าวาง อ็องโตนี่ โมแดสต์ ประจำการ โดยมี มาร์โค รอยส์ คอยปั้นเกมสนับสนุน

ด้าน “นกนางนวล” ทีมน้องใหม่หน้าเก่าภายใต้การคุมทีมของ โอเล่ แวร์เนอร์ ประเดิมสองนัดแรกด้วยการเสมอ 2-2 ทั้งสองนัด นัด คู่กองหน้าวาง มาร์วิน ดุ๊คส์ช จับคู่ นิคลาส ฟึลครุก และวาง เยนส์ ชตาเก่ ปั้นเกมเริ่มเกมมา 2 นาที เป็นฝั่งเจ้าถิ่นได้ลุ้นก่อน จากการ

ซัดไกลนอกกรอบของ มาห์มูด ดาห์อูด แต่ยิงบอลออกหลังไปเอง ซึ่งแม้เจ้าตัวจะประท้วงว่าเป็นลูกแฉลบ แต่ผู้ตัดสินไม่สนใจ

นาทีที่ 18 เสือเหลือง ได้รับข่าวร้ายก่อนเมื่อ มาห์มูด ดาห์อูด เกิดอาการไหล่หลุด เล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง เอ็มเร่ ชาน ลงมาแทน

นาทีที่ 22 เบรเมน มีเสียวบ้าง เมื่อได้ฟรีคิกริมสนามฝั่งซ้าย มาร์โค ฟริเดิล เปิดบอลให้ เยนส์ ชตาเก้ พุ่งโฉบเต็มหัว แต่บอลโด่งข้ามคานออกหลังไปนิดเดียว

นาทีที่ 42 ทีม “นกนางนวล” ได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อได้ฟรีคิกกลางประตูตรงกรอบเขตโทษ แต่ลูกยิงของ มาร์วิน ดุ๊คส์ช แม้จะผ่านกำแพงมาได้ แต่ยังไม่ผ่านมือ เกรกอร์ โคเบล ได้บินเซฟได้อย่างสวยงาม

ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+2 แฟนๆ เสือเหลืองเฮลั่น เมื่อ มาร์โค รอยส์ จ่ายบอลให้ ยูเลี่ยน แบรนท์ด ทางริมสนามฝั่งขวา ก่อน ยูเลี่ยน แบรนท์ด โซโล่เดี่ยวเข้ามาตรงกรอบเขตโทษ ก่อนซัดเปรี้ยง ด้วยเท้าซ้าย บอลพุ่งเสียบตาข่ายไปอย่างสุดยอด พา ดอร์ทมุนด์ขึ้นนำ เบรเมน 1-0 พร้อมหมดครึ่งแรก ด้วยสกอร์นี้

เริ่มครึ่งหลังนาทีที่ 55 เบรเมน พลาดได้ประตูตีเสมอน่าเสียดาย เมื่อ นิคลาส ฟึลครุก ลุยเข้ากรอบเขตโทษ เข้าไปยิง แต่แนวรับ ดอร์ทมุนด์ ตามบล็อคได้ทัน แต่ดูจากภาพช้าบอลมีไปโดนแขน มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ ด้วย แต่ผู้ตัดสินและวีเออาร์ ไม่ว่าอะไร

นาทีที่ 77 แฟนๆ เสือเหลืองได้เฮกันอีกครั้ง เมื่อ มาร์โค รอยส์ แปะบอลให้ ราฟาแอล เกร์เรยโร่ เติมขึ้นมากดยิงด้วยเท้าซ้ายเต็มข้อ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งกระโดดพื้นผ่าน ยิรี่ พาฟเลนก้า ไปอย่างสุดยอด พา ดอร์ทมุนด์ นำ 2-0

นาทีที่ 88 ทีมเยือน มาได้ประตูตีตื้น เมื่อ ลี บูคาเน่น ตัวสำรอง มาเก็บตกยิงในกรอบเจตโทษ จากการสกัดไม่ดีของ เกรกอร์ โคเบล และ แนวรับเจ้าถิ่น พา เบรเมน ไล่มา 1-2

แต่แล้วช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+3 แฟนๆ เสือเหลือง ช็อคตาตั้ง อามอส ปีเปอร์ เปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษ ให้ นิคลาส ชมิดท์ โขกผ่านมือ เกรกอร์ โคเบล ตุงตาข่าย พา เบรเมน ตามตีเสมอ 2-2

จากนั้น นาทีที่ 92+5 แฟนเจ้าถิ่น อึ้งกันอีกรอบ เมื่อ เบรเมน บุกสวนขึ้นมา ก่อน มิทเชลล์ ไวเซอร์ จ่ายบอลให้ โอลิเวอร์ เบอร์เก้ ตัวสำรอง ยิงเปรี้ยงตุงตาข่ายไปอย่างสวย พา เบรเมน แซงนำเฉย 3-2

ช่วงเวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลา กลายเป็น เบรเมน ทำผลงานสุดแสบ สอยตาข่าย ดอร์ทมุนด์ ไปอย่างสุดมัน 3-2 ขโมย 3 แต้มกลับบ้านอย่างเหลือเชื่อ

นักเตะตัวจริงของทั้งสองทีม

ดอร์ทมุนด์ (4-2-3-1) : เกรกอร์ โคเบล – มาริอุส โวล์ฟ, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ (นิคลาส ซือเล่ น.62), นิโค่ ชลอทเทอร์เบ็ค, ราฟาแอล เกร์เรยโร่ – มาห์มูด ดาห์อูด (เอ็มเร่ ชาน น.18), จู๊ด เบลลิงแฮม – เจมี่ ไบโน-กิทเท่นส์ (โจวานนี่ เรย์น่า น.62), มาร์โค รอยส์,ยูเลี่ยน แบรนท์ด (ธอร์กาน อาซาร์ น.62)– อ็องโตนี่ โมแดสต์ (ยุสโซฟา มูโกโก้ น.81)

เบรเมน (3-3-2-2) : ยิรี่ พาฟเลนก้า – อามอส ปีเปอร์, มิลอส เวลโควิช, มาร์โค ฟริเดิล – มิทเชลล์ ไวเซอร์, คริสเตียน โกรส, อันโธนี่ ยุง (ลี บูคาเน่น น.70) – เยนส์ ชตาเก้ (โรมาโน่ ชมิดซ์ น.62), เลโอนาร์โด้ บิทเท่นคอร์ท (นิคลาส ชมิดท์ น.70)– มาร์วิน ดุ๊คส์ช (โอลิเวอร์ เบอร์เก้ น.81), นิคลาส ฟึลครุก