07-07-2022, 08:35 AM
นายกสมาคมบาสเกตบอล แนะ นักกีฬาไม่ควรโพสต์แฉ กรณี "โค้ชล็อกผล" เพราะหากไม่มีหลักฐาน อาจต้องจ่ายค่าปรับ และอดลงเล่น 1 ปี
วันที่ 6 ก.ค. 65 หลังจากมีบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ออกมาเปิดเผยว่า “มีน้องที่ฝันอยากเล่นลีกอาชีพ น้องได้ตั้งใจฝึกซ้อมและอยากพัฒนาตัวเอง เพื่อจะได้เล่นทีมดีๆ มีแมวมองดึงตัวไปเล่น มาปรึกษาว่าก่อนเริ่มเกมโค้ชจะสั่งว่าวันนี้อย่าให้เกินกี่แต้ม แล้วห้ามทำแต้มเกินเท่านี้นะ น้องพูดกับผมว่า ผมหมดศรัทธากับกีฬาบาสเกตบอล ผมอยากเก่ง ผมไม่ได้อยากมาเล่นเพื่อเป็นตัวละครในวงการ ทำไมต้องให้ผมลงไปทำในสิ่งที่ผมไม่ได้อยากทำ”
เมื่อโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็มีแฟนกีฬาบาสเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก อาทิเช่น ผมนี่แหละครับที่เลิกติดตามบาสไทยไปละ เบื่อ เพื่อนผมเล่าให้ฟังแต่ละอย่าง ผมเลยไม่แปลกใจ ที่ลีกหยุดพัฒนา, ขอบคุณที่กล้าพูดออกมา, ต้องให้ข้อมูลกับลีกครับ มันเป็นเนื้อร้าย และอย่าลอยๆ ต้องมีข้อมูล เพราะเดี๋ยวเอาข้อความเป็นเท็จลงสื่อนะครับ ฝากน้อง ส่งข้อมูลให้ลีกเลยครับ จะได้ดำเนินการต่อ และล้มกันแบบโจ่งแจ้ง ไม่มีความเนียนตาใดๆ ดูถูกคนดูมากๆ และเย้ยหยันกฎหมายสุดๆ ประมาณว่าใครก็ทำไรไม่ได้ ต่อให้จะทำทุเรศแค่ไหน อนาถจริงๆ
ล่าสุด นิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร นายกสมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหว โดยเปิดเผยว่า “รับรู้ว่ามีเรื่องราวทำนองนี้เกิดขึ้นตลอด ทางสมาคมก็มีแผนการทำงาน เตรียมพร้อมรับมือ เพียงแต่อยากจะให้นักกีฬารวบรวมหลักฐานมาว่ากัน มากกว่าการโพสต์โซเชียล แฉ เพราะนอกจากจะจับคนผิดไม่ได้แล้ว ยังเป็นการด้อยค่าสมาคมด้วย”
"การโพสต์โซเชียลแฉเนี่ย มันมีกฎที่ปฏิบัติกันทั่วโลก ถ้าเกิดคุณโพสต์แล้วโดนสอบสวนว่าไม่ใช่เรื่องจริง เป็นแค่เรื่องสร้างกระแส คุณจะโดนปรับ ห้ามลงเล่น 1 ปี ปรับเงินอีก 100,000 บาท ฉะนั้น สมาคมมีแนวทางอยู่แล้ว หากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ให้นำหลักฐานรวบรวมส่งถึงลีก แล้วทางลีกจะส่งต่อมาที่สมาคม จากนั้นสมาคมจะทำงานร่วมกับ หน่วยงานเก็บสถิติและตรวจสอบการทุจริตในวงการกีฬา จากนั้นเมื่อมีหลักฐาน เอาผิด มัดตัวได้ ทางสมาคมก็จะลงโทษอย่างหนักแน่นอน"
อย่างไรก็ตาม ทางนายกสมาคมบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย ไม่ขอเปิดเผยข้อมูล เรื่องตัวเลขหรือสถิติการทุจริตในบาสเกตบอลไทยลีก เพียงแต่ฝากให้นักกีฬาทบทวนก่อนโพสต์ เพราะอาจจะเป็นผลเสียระยะยาวได้